ถาม : คนสมัยนี้มักจะถามว่าชีวิตเขานี่เจอความเครียด อย่างเช่นว่า เงินไม่พอใช้ มีปัญหาครอบครัว บางทีก็รถติด ธรรมะอะไรที่มันจะมาใช้กับความเครียด ที่่จะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่เครียด
ตอบ : คนเรา ใจเรา หากยอมรับความจริง ที่เราเป็นทุกข์ สติก็จะเกิด สติเกิด สิ่งที่เราไม่พอใจ เราปฏิเสธไปมันก็แก้อะไรไม่ได้ เราไม่สบายใจ เครียดเรื่องงาน หรือว่าเราจะทุกข์ เราไม่พอใจเรื่องรถติดอย่างนี้ ความไม่พอใจก็ไม่สามารถทำให้รถไม่ติดได้ มันก็ติดเหมือนเดิม
           เพียงแต่ว่าเราต้องยอมรับความจริงว่ารถติดมันเป็นอย่างนี้ เราก็รับรู้กันไป ใจเราก็ไม่เครียด ไม่ทุกข์กับเรื่องรถติดหรือว่าเรื่องการงานอะไรต่างๆ เรียกว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อต้าน ถ้าเรามีความรู้สึกต่อต้านกับเหตุการอะไร บางสิ่งบางอย่างแล้ว เราก็จะไม่สบายใจ เหมือนว่าเราไม่อยากไปที่โน่น เราไม่อยากพูดอย่างนั้น เราไม่อยากฟังอย่างนี้ แต่ว่าเราก็จำเป็นต้องไป เราไม่อยากไป แต่เราต้องไป เราก็ไปด้วยความทุกข์ เพราะว่าไม่อยากไป เพียงแต่ว่าไปก็ไป มันเป็นหน้าที่ มันเป็นงาน พ่อแม่ให้ไป ครูบาอาจารย์ให้ไป มันก็สบายใจ

          ก็คือ เราไม่ต่อต้านสิ่งที่เราต้องทำ เพราะถ้าเราต่อต้าน เราก็ทุกข์ อาตมาเคยเห็นตัวเองทุกข์ ที่เกี่ยวกับกิจนิมนต์ ครูบาอาจารย์รับกิจนิมนต์ไว้ พอถึงเวลาก็เขียนชื่อองค์นั้นองค์นี้ไป มากิจนิมนต์จากเมืองกาญจ์มากรุงเทพ ฯ นี่ ก็ไป แล้วรู้สึกว่าไม่อยากไป ไม่อยากไป บางองค์ไม่อยากไปก็ปฏิเสธไปเลย แต่เรานี่ไม่อยากไปแต่ว่าจะต้องไป เพราะว่าเราคิดว่าครูบาอาจารย์ให้ไปแล้ว เราก็ต้องไป อันนี้เราก็ได้ผล คือเราไม่ได้ตามใจว่าไม่อยากไป ก็ไม่ไปเหมือนคนอื่น เราก็ยังฝืน ฝีนไปทั้งที่ไม่อยากไป เราก็นั่งมองมาเรื่อยๆ ไม่ให้มีความยึดติด ไม่พอใจ มาสบายใจ เพราะมันไม่อยากมา ไม่อยากมา จนมาถึงกรุงเทพนี่ก็ยังมีความยึดติด ไม่สบายใจ นี่เพราะเรามีความยึดถือว่าเราไม่อยากมานะ
         แต่ที่เรามาได้นี่ ก็ถือว่าเราเก่ง เราฝืนมา เพราะบางองค์หรือบางคน ไม่อยากไปแล้วก็เบี้ยวไม่ไปเลย หรือว่าให้คนอื่นไปแทน อันนี้เราก็จะเห็นว่าถ้าเรามีความรู้สึกต่อต้าน เราก็จะไม่สบายใจหรือทุกข์ แต่ถ้าเรามีความรู้สึกว่าให้อยู่ก็อยู่ ให้ไปก็ไป แล้วมันก็จบ ไม่มีอะไร คนอื่นที่นั่งรถไปด้วยกัน เขาก็สบาย เขาไม่ได้มีความรู้สึกว่าอยากไปหรือไม่อยากไป แต่เขาก็ไปตามที่ครูบาอาจารย์สั่ง