ถาม : การให้ทานเป็นอาหารกับคนยากจนหรือคนทั่วไปกับการใส่บาตร ได้ผลานิสงส์เท่ากันหรือไม่
ตอบ : ผลานิสงส์นี่จะแตกต่างกันที่ 1. บุคคลผู้ให้ 2. บุคคลผู้รับ และ 3. วัตถุทาน ถ้าวัตถุทานเราหามาได้ด้วยความสามารถของเรา ไม่ได้ไปฆ่าไปลักไปโกงเขามา เรียกว่าเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์ และเราเป็นผู้มีศีล หรือผู้รับของของเราเป็นผู้มีศีลด้วย ก็จะมีผลานิสงส์มาก
คล้ายกับเราปลูกต้นไม้ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่ดี ในดินที่ดี และมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำ ต้นไม้นั้นจะเจริญงอกงาม จะทำให้เกิดดอกออกผลได้ผลผลิตเยอะ แต่ถ้าต้นไม้พันธุ์ไม่ดี ดินที่ปลูกเป็นดินที่ไม่มีปุ๋ยหรือว่าน้ำที่จะรดความชื้นไม่เพียงพอ ต้นไม้นั้นก็ไม่เจริญเติบโต
ถ้าเราอยากจะให้ทาน ให้ได้ผลานิสงส์มาก เราก็ต้องทำให้เกิดความสมบูรณ์ คือ วัตถุทานต้องมีความบริสุทธิ์ ตัวเราต้องพยายามมีศีล และให้ทานแก่ผู้มีศีล แต่ส่วนที่เราให้กับบุคคลทั่วไป สงเคราะห์คน สงเคราะห์สัตว์ ก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน ถ้าเรามีความพร้อม ถึงแม้ว่าจะมีผลานิสงส์น้อย ก็ควรทำ เพราะคล้ายกับเราหาเงิน ขายสิ่งของ ก็ไม่เป็นต้องได้กำไรเยอะๆจึงจะทำ ได้กำไรน้อย แต่ทำอยู่บ่อยๆเป็นประจำก็เกิดผลกำไรมากได้ ขอให้อย่าประมาทในผลของทาน ถ้าคิดอยากจะได้แต่บุญใหญ่ๆ บุญมากๆ แล้วชีวิตของเราก็ล่วงเลยไป อาจหาโอกาสที่จะทำบุญไม่ได้เลยก็มี
พระอธิการสำราญ วทฺฒโน
วัดถ้ำน้ำทิพย์ อุบลราชธานี
สาขาวัดหนองป่าพงที่ 190
ตอบตามธรรม เล่ม 1