นั่งหลับเวลาปฏิบัติธรรม
ถาม : ปฏิบัติธรรมมาหลายปีแล้ว แต่ยังนั่งหลับเกือบทุกครั้ง ควรทำอย่างไรดี
ตอบ : ก็เป็นปกติธรรมดา การง่วงนอนเป็นนิวรณ์อย่างหนึ่ง จิตใจของเราจะอยู่ใน 5 อย่างเรียกว่านิวรณ์ห้า คือ กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ และ วิจิกิจฉา ง่วงนอนนี่ 1ใน 5 ถ้าไม่มีนิวรณ์ห้า จิตของเราก็จะมีสมาธิเวลานั่งสมาธิ
พระหนุ่มๆ หรือบุคคลสุขภาพดีๆ บางทีจิตฟุ้งซ่านคิดไปในเรื่องที่ภาษาพระเรียกว่า กามฉันทะ หรือพยาบาท แล้วแต่ว่าจริตนิสัยของใครจะแก่ไปทางไหน บางทีนั่งสมาธิอยู่ในป่าในเขาองค์เดียวแท้ๆ นั่งไปนี่ การกระทบทางอายตนะทางตา ทางหู นี่ไม่มี แต่จิตของเรามันไปเอาอดีต เอากรรมที่เราเคยสร้างในอดีต การกระทำของเราที่เคยสร้างมาในอดีตอาจจะเป็น 3 ปี 5 ปี 7 ปี มันผุดขึ้นมาในขณะนั่งสมาธิ บางทีก็โกรธ กรรมปั้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สติไม่ทัน บางครั้งบางคราวเมื่อเรามีสมาธิอยู่ในระดับหนึ่ง เรื่องเก่าๆมันจะผุดขึ้นมาๆ
ถ้า 5 อย่างนี้ไม่มี เราจะมีสมาธิเกิดขึ้น ถ้าจะทำสมถะเพื่อให้จิตสงบก็ต้องปราบ 5 อย่างนี้ พระพุทธเจ้าจึงมี 40 วิธีในการตั้งอารมณ์กรรมฐาน เช่นการเพ่งหรือการบริกรรมให้จิตนิ่งไม่สนใจเรื่องอื่นเลย จะบริกรรมพุทโธๆๆ อย่างนี้ก็ได้ เรียกว่าสมถกรรมฐาน สิ่งเหล่านี้จะทำให้จิตของเรามีสมาธิได้
แต่ถ้าทำวิปัสสนากรรมฐาน อะไรจะเกิดขึ้นก็ได้ทั้งนั้นให้เราเอาสติควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับจิตให้ได้ ให้มีสติรู้เท่าทันจิตของเรา
เวลากามฉันทะเกิดขึ้น ถ้าเป็นพระ ท่านก็ให้อสุภกรรมฐาน ครูบาอาจารย์ท่านสอนลูกศิษย์สอนพระหนุ่มเณรน้อยไปติดอยู่ในรูป ความสวยๆ งามๆ ใจจะฟุ้งซ่าน ท่านก็ว่า ดูซิ ที่ไหนมันสวย หน้าไม่ล้าง ไม่แปรงฟันสักวันหนึ่ง ไม่อาบน้ำสัก 3 วัน เราดูซิ มันจะเป็นอย่างไร อย่าง ผม ขน คนเรานี่อวัยวะร่างกายทุกส่วนนี่ ท่านว่ามีแต่ขี้ทั้งนั้น อันนี้วิธีปราบกามฉันทะ เมื่อเห็นชัดขึ้นๆแล้วจิตใจมันก็จะถอย มันอุปาทานเพราะมันมีตัวตน เพราะมีผู้หญิง มีผู้ชาย ถ้าจิตยังไม่หลุดพ้น ตรงนี้จะเกิดขึ้น ฉะนั้น วิธีทำที่จะให้ได้ผลที่ตรงที่สุด คือ จะทำอย่างไรให้เห็นตัวเราของเรานี่เป็นสักแต่ว่าธาตุตามธรรมชาติ ชัดขึ้นๆ จนจิตหลุดพ้น ถ้าไม่หลุดพ้น ก็ต้องวนเวียนอยู่อย่างนี้แหละ วิธีสอนอันนี้เรียกว่า อสุภกรรมฐาน เห็นความไม่สวยไม่งาม
พระครูภาวนาอุดมคุณ (โสภา อุตฺตโม)
วัดเขาวันชัยนวรัตน์ นครราชสีมา
สาขาวัดหนองป่าพงที่ 82
ตอบตามธรรม เล่ม 2