สิ่งที่ควรอธิษฐาน
โดยส่วนใหญ่แล้ว การอธิษฐานของเราทั้งหลายนั้น มันมีความผิดพลาดอยู่มาก เพราะมีความติดข้องมีความต้องการ อยากได้ อยากมี อยากเป็น แล้วก็ทำให้ตนเองไปตกอยู่ หมกอยู่กับที่ใดที่หนึ่ง เนื่องจากความไม่รู้ของเรานั่นเอง เช่น บางคนเขาเป็นแม่เป็นลูกกัน เขารักกันมาก เขารู้สึกว่า การตายจากกัน การต้องพลัดพรากจากกัน มันเป็นเรื่องเลวร้ายมาก เป็นเรื่องผิดปกติมาก เขาก็อยากเจอกันอีก ชาตินี้เขาเป็นแม่เป็นลูกกัน ไม่ค่อยกล้าพูดเรื่องความตาย ไม่กล้าพูดเรื่องการต้องพรากจากกัน เขาถือว่ามันเป็นอวมงคล เป็นอัปมงคล อะไรก็ว่ากันไป ถ้าตายจากกันแล้ว ก็อยากจะเจอกันอีก อยากเป็นแม่เป็นลูกกันชาติต่อไป อธิษฐานให้เจอกันอีกเถอะ แต่ทุกคนเป็นไปตามกรรม ทีนี้สมมตินะ แม่ของคนนี้ไปเกิดเป็นหมาเข้า เขาอธิษฐานว่า ชาติต่อไป ขอให้ได้เกิดในท้องแม่อีกเถอะ เขาก็กลายเป็นลูกหมาไปลำบากลำบนน่าดูเหมือนกัน
การอธิษฐานแบบหวังผลผิด ๆ พลาดๆ โดยไม่มีความรู้นั้น จะทำให้เกิดอันตรายเป็นอันมากทีเดียว ทำให้ได้ประสบกับความทุกข์ ความยากลำบากที่ไม่จำเป็นเป็นอันมาก เหมือนกับเราบอกว่า ด้วยการทำบุญอันนี้นะ ด้วยการให้ทาน การทำวัตร สวดมนต์ ไหว้พระ อะไรก็ตามแต่ ขอให้ได้เป็นพระราชาเถอะ ทีนี้การเป็นพระราชาก็ย่อมเป็นไปตามเหตุ อย่างประเทศไทยเรานี่ ๖๐ กว่าล้านคนนะ มีพระราชาอยู่พระองค์เดียว เรายังต้องเกิดวนเวียนไปมาอีกอยู่กี่ชาติ จึงจะได้เป็นพระราชา ต้อง ๖๐ ล้านชาติ น้อยกว่านั้นหรือมากกว่านั้นบ้างก็ว่ากันไป แล้วแต่เหตุปัจจัยว่าพร้อมหรือยัง ในระหว่างที่รอผลนั้น ก็ต้องประสบกับความยากลำบากอีกมากอย่างคาดเดาไม่ได้
การอธิษฐานขอผลลักษณะเช่นนั้น ทำให้เราทั้งหลายไม่ได้เจอสิ่งที่ดี หรือสิ่งที่เลิศประเสริฐกว่านั้น จิตใจคอยหวังผลอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ เราทำบุญแล้วหวังอยากได้ผลของบุญ ผลของบุญก็รอโอกาสที่มันเหมาะสมจึงจะให้ผลได้ เราก็ต้องเกิดไปเรื่อยๆ เพื่อรับผลของบุญอันนั้น นานมากล่ะทีนี้ ซึ่งระหว่างนั้นก็ต้องเวียนเกิดเวียนตาย ประสบกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ เกิดความทุกข์ยากมากมาย เพื่อที่จะได้รับผลบุญที่ปรารถนาเอาไว้ นี่พวกที่ปรารถนาผลบุญมันจึงเป็นทำนองนี้ คือวนเวียนกันไป
จากหนังสือ "สิ่งที่ควรอธิษฐาน"
โดยอาจารย์สุภีร์ ทุมทอง
เรียบเรียงจากคำบรรยายที่กรมศุลกากร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่
๕ มกราคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๒.๐๐ น.
คุณจีระภา เข็มทอง เป็นผู้ถอดเทป ผู้บรรยายได้นำมาปรับปรุงเพิ่มเติมตามสมควร