หลักการบริหารชีวิต..ในห้วงวิกฤติการณ์…
1. ทำงานด้วยจิตรู้..ตื่นรู้..ตื่นทำสติ สัมปชัญญะ และความเพียรชอบ..เป็นอุปการะธรรม ที่สำคัญยิ่ง… ต้องฝึกฝน ให้พร้อมใช้ ทุกระยะ…เพื่อการตื่นรู้ อยู่เสมอในการบริหารชีวิตไปในทุกเวลา
2. พิจารณา ก่อน พูด ..พูด แล้ว กลับมาคิด… คำพูดใด ไร้ประโยชน์ แม้เป็นคำจริง ก็ไม่ควร..ที่สำคัญต้องเป็นไปเพื่อ ความสมานมิตร…จึงควรยิ่ง การรู้จักไม่พูดทุกอย่างที่คิด น่าจะเป็น หลักธรรม ที่ควรถือปฏิบัติ…โดยคำนึงถึงสาระประโยชน์ในทุกครั้ง
3. เมื่อ ดำเนินชีวิต อย่างมีการตื่นรู้…การคำนึง ถึงประโยชน์ตน ผู้อื่น สังคมสิ่งแวดล้อม ย่อมเป็นไปได้ นั่นคือ การรู้จักปรับสภาพ เพื่อสร้างสมดุลย์ในวิถีสังคมที่ปรับเปลี่ยนตนเองทุกขณะ เพื่อแสดงความเป็นอนิจจัง…
4. ขันติธรรม และ โสรัจจะ..เป็นองค์ธรรม ที่ควรถือปฏิบัติ โดยคำนึง ถึงความไม่ประมาท และความไม่มัวเมา…เป็นที่สุด
5. การรู้จักชีวิต คือ ธรรมะเพื่อการบริหารชีวิต อย่างไม่ผิดไปจากธรรม….ต้องคำนึงเสมอ ในทุกกาลสมัย ของสัตตบุรุษ..เพื่อการใช้ชีวิตตนเองอย่างเรียบง่าย ไม่ติดกับอธรรม ในสังคมวัตถุนิยมครองโลกอย่างปัจจุบัน…
6. การปฏิบัติตน ให้ตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน..เพื่อตื่นทำในทุกขณะ ไม่ตกในอาการวิตกกังวล อาลัยโหยผา ไม่ฟุ้งซ่านไปในม่านจินตนาการกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น… นับเป็นการใช้เวลาในชีวิตให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด…
7. การรู้จัก..ใช้หลักรู้ ละ วาง ว่าง สงบ.. จะเป็นการตื่นรู้ที่นำไปสู่..การเห็นตามความเป็นจริง เพื่อการมีความเข้าใจตรงตามความเป็นจริงเสมอ…ที่เรียกว่า มีปัญญา รู้แจ้ง….ที่จะเกิด ..การปล่อยวาง ว่าง สงบ ได้จริง.โดยความเข้าใจจริงว่า ทุกสรรพสิ่ง มันเคลื่อนไหวตามเหตุ ตามปัจจัย…อันไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น..ให้เกิดความทุกข์.ในชีวิต!
จึงฝากเป็นหลักธรรม ในการเป็นแนวทางดำเนินชีวิตของทุกคนในโลกยุควิกฤติการณ์ จากภัยธรรมชาติ อันเป็นไปตามกระแสกรรม ของสัตว์โลก!!!!
พระ อ. อารยวังโส
วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย ลำพูน
21 ก.ค. 2564