ความทุกข์อยู่ที่ไหน
ความทุกข์อยู่ที่ไหน อยู่ที่บ้านเราหรือ อยู่ที่ท้องฟ้าแผ่นดินหรือ อยู่ใต้ดินหรือ หรือว่าอยู่ที่อาคารแห่งนี้หรือ ความทุกข์อยู่ที่ใจของเราทุกคน ถ้าใจของเรามีความเห็นผิด มีความเห็นที่ไม่ถูกต้องแล้วไปยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้ว่าเป็นตัวตนของเรา ยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ทั้งหลายทั้งปวงว่าเป็นจิตใจของเราก็ก่อให้เกิดความทุกข์ ถ้าเรามีสติมีความฉลาดเห็นความทุกข์ ทำไมเราถึงปล่อยให้ความทุกข์เกิดขึ้นในจิตใจของเรา มีใครปรารถนาความทุกข์บ้างอาตมาว่าทุกคนไม่มีใครปรารถนาความทุกข์ ทุกคนปรารถนาความสุขด้วยกันทั้งนั้น แล้วเราทำไมปล่อยให้ความทุกข์เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา ความทุกข์ไม่ได้เกิดขึ้นที่ต้นไม้ หรือท้องฟ้า หรือแผ่นดิน เมื่อความทุกข์เกิดขึ้นที่ใจเราทำไมไม่หาทางดับความทุกข์ที่เกิดขึ้นที่ใจเรา ยิ่งพวกเราทั้งหลายมีบุญมีโชคอันประเสริฐที่ได้เกิดมาพบคำสอนของพระพุทธองค์ ทางพ้นทุกข์ พระพุทธองค์ท่านได้ทรงชี้ทางไว้ให้แล้ว คำสอนของท่านได้สืบต่อมาถึงพวกเราทั้งหลาย อันมีหลวงปู่มั่นหลวงปู่ชาเป็นที่สุด
ในเบื้องต้นท่านให้บำเพ็ญศีลบารมี เพื่อที่จะควบคุมร่างกายและวาจาของเราให้สงบ ถ้าเราเห็นความทุกข์ซึ่งมีอยู่ภายในจิตใจของเราเราก็ยกกองทัพสมาธิของเราเข้าไป ไปยึดครองเมืองใจคืน ยกกองกำลังใหญ่เข้าไปตีเมืองหลวงซึ่งกิเลสยึดครองอยู่คือใจของเรานั่นแหละที่ความหลงยึดครองอยู่ ยกสมาธิ ทำเข้าไปฝึกกำหนดสติให้ต่อเนื่องอยู่กับกรรมฐานบทใดบทหนึ่งซึ่งถูกกับจริตของเราเรียกว่าเป็นการทำสมาธิ มีเวลาว่างก็สำรวมอิริยาบถนั่งสมาธิ เดินจงกรม แม้นออกจากอิริยาบถนั่งสมาธิ ออกจากอิริยาบถเดินจงกรมก็มีสติตามรักษาจิตของตนอยู่ทุกๆ ขณะจิต ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง ทำอะไรให้มีสติกำกับจิตใจของเราไปตลอด ทำหน้าที่การงานต่างๆ ก็ต้องมีสติอยู่กับหน้าที่การงานนั้นๆ ถ้าว่างจากภาระหน้าที่การงานต่างๆ เอาสติไว้ที่ไหน เอาสติมาดูใจเรา มาดูความคิด มาดูอารมณ์ที่เกิดขึ้นที่ใจของเรา ไม่ต้องไปดูบุคคลอื่นให้มาดูใจเรา การนั่งสมาธิ เดินจงกรมต้องอาศัยความอดทน อาศัยความเพียร ทำให้มาก เจริญให้มาก เบื้องต้นการทำจิตให้สงบอาจจะทำยากหน่อยเพราะเราปล่อยวัน เวลา ล่วงเลยมาไม่รู้กี่สิบปีแล้วเฉพาะในปัจจุบันชาติ จะนั่งสมาธิให้สงบในคราวหนึ่งหรือไม่กี่ครั้งก็เป็นไปได้ยาก
จากหนังสือ "ฝึกใจให้ถึงธรรม"
พระธรรมเทศนาโดย
พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต
วัดบุญญาวาส ชลบุรี