สองหน้าของสัจธรรม

 10-Oct05-65-BDS-11

 

#สองหน้าของสัจธรรม 
.
…. “ ในชีวิตของเรามีทางเลือกอยู่ ๒ ทาง คือ คล้อยตามไปกับโลก หรือ พยายามปฏิบัติให้อยู่เหนือโลก พระพุทธเจ้านั้นท่านทรงปฏิบัติจนพระองค์เองทรงพ้นโลก ด้วยการตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ
 
…. ในทํานองเดียวกัน ปัญญาก็มี ๒ คือ ปัญญาโลกีย์ กับ ปัญญาโลกุตตระ หากเราไม่ภาวนาฝึกปฏิบัติอบรมตนเอง ถึงจะมีปัญญาปานใด ก็เป็นเพียงปัญญาโลกีย์ เป็น “โลกียวิสัย” จะหลุดพ้นโลกไปไม่ได้ เพราะ โลกียวิสัยนั้นมันเวียนไปตามโลก เมื่อเวียนคล้อยไปตามโลก จิตก็เป็นโลก คิดอยู่แต่จะหามาใส่ตัว อยู่ไม่เป็นสุข หาไม่รู้จักพอ วิชาโลกีย์เลยกลายเป็น “อวิชชา” หาใช่วิชชาความรู้แจ้งไม่ มันจึงเรียนไม่จบสักที เพราะมัวไปตาม ลาภ ตามยศ ตามสรรเสริญ ตามสุข พาใจให้ติดข้อง เป็นกิเลสกองใหญ่
 
…. เมื่อได้มาก็หึงก็หวง เห็นแก่ตัว สู้ด้วยกําปั้นไม่ได้ ก็คิดสร้างเครื่องจักร เครื่องยนต์ เครื่องกลเครื่องไก สร้างศัสตราอาวุธ สร้างลูกระเบิดขว้างใส่กัน นี่คือ โลกีย์ มันไม่หยุดสักที เรียนไปก็เพื่อจะเอาโลก จะครองโลก ได้อะไรก็หวงอยู่นั่นแล้ว นี่คือโลกียวิสัย เรียนไปแล้วก็จบไม่ได้
 
…. มาฝึกทางโลกุตตระ โลกุตตระนี้อยู่ได้ยาก ผู้ใดหวังมรรค หวังผล หวังนิพพาน จึงจะทนอยู่ได้ จงทําตนให้เป็นคนมักน้อย สันโดษ 
กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทําให้มันหมดโลกีย์
 
…. ถ้าเชื้อโลกีย์ไม่หมด มันก็ยากมันยุ่ง ไม่หยุดเสียที แม้มาบวชแล้วก็ยังคอยดึงให้ออกไป มันมาคอยให้ความรู้ความเห็น มันมาคอยปรุงคอยแต่งความรู้อยู่นั่น แล้วทําให้ใจติดข้องอยู่ในกามคุณทั้งห้า คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมมารมณ์ อารมณ์ของใจเป็นกาม 
คือความใคร่ในความสุข ความทุกข์ ความดี ความชั่ว สารพัดอย่าง มีแต่กามทั้งนั้น
 
…. คนไม่รู้จักก็ว่าจะทําสิ่งในโลกนี้ให้มันเสร็จ ให้มันแล้ว เหมือนคนที่มาเป็นรัฐมนตรีใหม่ ก็คิดว่าตนต้องทําได้ บริหารได้ แล้วก็เอาอะไรๆ ที่คนเก่าทําไว้ออกไปเสีย เอาวิธีบริหารของตนเข้ามาใช้แทน ก็เลยต้องได้หามกันออก หามกันเข้าอยู่อย่างนั้นไม่ได้เรื่องสักที ที่ว่าจะทําให้เสร็จ มันก็ไม่เสร็จ เพราะจะทําให้ถูกใจคนทุกคนนั้น มันทําไม่ได้หรอก
 
…. คนหนึ่งชอบน้อย คนหนึ่งชอบมาก คนหนึ่งชอบสั้น คนหนึ่งชอบยาว คนหนึ่งชอบเค็ม คนหนึ่งชอบเผ็ด จะให้เหมือนกันนั้น ไม่มีในโลก
 
…. คนอยู่ครองโลก ครองบ้าน ครองเมือง ทําทุกอย่างก็อยากให้มันสําเร็จ แต่ไม่มีทางสําเร็จหรอก เรื่องของโลกมันจบไม่เป็น ถ้าทําตามโลกแล้วจบได้ พระพุทธเจ้าท่านก็คงทรงทําแล้ว เพราะท่านครองโลกอยู่ก่อน แต่นี่มันทําไม่ได้”
 
พระโพธิญาณเถร ( หลวงพ่อชา สุภัทโท )
ที่มา : ธรรมบรรยายแก่ที่ประชุมสงฆ์หลังสวดปาฏิโมกข์ ที่วัดหนองป่าพง 
ในระหว่างพรรษา ปี พ.ศ. ๒๕๑๙
 
ธรรมะจากพระโอษฐ์
(รวบรวมโดย พระอาจารย์พงษ์พันธ์ ฉนฺทกโร 
ที่พำนักสงฆ์สวนโพธิญาณ จ.กาญจนบุรี)
 

เกี่ยวกับเรา

Maya-Logo3

มูลนิธิมายา โคตมี เป็นองค์กรการกุศลที่ไม่หวังผลกำไร เพื่อสนับสนุนเยาวชนในด้านการศึกษาและสร้างเสริมจริยธรรม และเพื่อการพัฒนาตนตามหลักพระพุทธศาสนา

Contact Us/ติดต่อเรา

มูลนิธิมายา โคตมี

3 ซอยกรุงเทพกรีฑา 20 แยก 7
แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ   10250

โทร. 02-368-3991, 06-1662-9077

E-mail: [email protected]

facebook : MayaGotami Foundation

www.mayagotami.net

line id : @mayagotami

 

แผนที่มูลนิธิ