#ภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้
ภิกษุ ทั้งหลาย. !
ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (อมาตาปุตฺติกภย) ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง.
๓ อย่าง คือ ... มีสมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ตั้งขึ้น, ไหม้หมู่บ้าน, ไหม้นิคม, ไหม้นคร
ในสมัยนั้น!
- มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
- บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).
ภิกษุ ทั้งหลาย. !
ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้
#ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่หนึ่ง.
________________
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ข้ออื่นยังมีอีก
คือ #มีสมัยที่มหาเมฆตั้งขึ้นเกิดน้ำท่วมใหญ่ พัดพาไปทั้งหมู่บ้าน, ทั้งนิคม, ทั้งนคร.
ในสมัยนั้น!
- มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
-บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).
ภิกษุ ทั้งหลาย. !
ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้
#ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สอง.
________________
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ข้ออื่นยังมีอีก
คือมีสมัยที่มีภัย.คือ #การกำเริบ (กบฏ) มาจากป่า ประชาชนขึ้นยานมีล้อหนีกระจัดกระจายไป. เมื่อภัยอย่างนี้เกิดขึ้น
สมัยนั้น.!
- มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
-บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).
ภิกษุ ทั้งหลาย. !
ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้
#ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สาม.
________________
ภิกษุ ทั้งหลาย. !
ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง เหล่านี้.
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ กล่าวสมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันได้) แท้ ๆ๓ อย่างนี้ #ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้) ไปเสีย.
_______________
ภิกษุทั้งหลาย. ! ภัย ๓ อย่าง #ที่มารดาและบุตรช่วยกันได้นั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
๓ อย่าง คือ..
- สมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ เป็นอย่างหนึ่ง,
- สมัยที่น้ำท่วมใหญ่ เป็นอย่างที่สอง,
- สมัยที่หนีโจรขบถเป็นอย่างที่สาม;
#เหล่านี้บางคราวมารดาและบุตรก็ช่วยกันและกันได้
#แต่ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับมากล่าวว่าเป็นภัยที่มารดาและบุตรก็ช่วยกันไม่ได้ไปเสียทั้งหมด.
________________
ภิกษุ ทั้งหลาย. !
#ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้.
(โดยแท้จริง) ๓ อย่างเหล่านี้
มีอยู่ ๓ อย่าง คือ..
#ภัยเกิดจากความแก่ (ชราภยํ),
#ภัยเกิดจากความเจ็บไข้ (พฺยาธิภยํ),
#ภัยเกิดจากความตาย (มรณภยํ).
ภิกษุ ทั้งหลาย.!
"มารดาไม่ได้ตามปรารถนากับบุตรผู้แก่อยู่อย่างนี้ว่า '".. เราแก่เองเถิด บุตรของเราอย่าแก่เลย; หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนากะมารดาผู้แก่อยู่อย่างนี้ว่า'.. เราแก่เองเถิด มารดาอย่าแก่เลย ดังนี้.
...................
"มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า"..
- เราเจ็บไข้เองเถิด มารดาของเราอย่าเจ็บไข้เลย; "หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า"..
- เราเจ็บไข้เองเถิด มารดาของเราอย่าเจ็บไข้เลย ดังนี้.
....................
"มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า".. เราตายเองเถิด บุตรของเราอย่าตายเลย; "หรือ"บุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า".. เราตายเองเถิด มารดาของเราอย่าตายเลย ดังนี้.
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เหล่านี้แล
#เป็นภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ ๓ อย่าง.
ภิกษุ ท. ! หนทางมีอยู่, ปฏิปทามีอยู่, ย่อมเป็นไปเพื่อเลิกละ, #ก้าวล่วงเสียซึ่งภัยทั้งที่เป็นสมาตาปุตติกภัยและอมาตาปุตติกภัยอย่างละสาม ๆ เหล่านั้น.
_______________
ภิกษุ ท. ! #หนทางหรือปฏิปทานั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
นั่นคือ #อริยอัฏฐังคิกมรรค (อริยมรรคมีองค์ ๘) นั่นเอง ได้แก่..
- สัมมาทิฏฐิ (เห็นชอบ)
- สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)
- สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)
- สัมมากัมมันตะ (การทำการงานชอบ)
- สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)
- สัมมาวายามะ (เพียรชอบ)
- สัมมาสติ (ระลึกชอบ)
- สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ).
ภิกษุ ทั้งหลาย. !
นี้แหละหนทาง, นี้แหละปฏิปทาเป็นไปเพื่อเลิกละ ก้าวล่วงเสีย #ซึ่งภัยทั้งที่เป็นสมาตาปุตติกภัยและอมาตาปุตติกภัยอย่างละสาม ๆ เหล่านั้น.
_____________________________
ติก. อํ. ๒๐/๒๒๘ - ๒๓๑/๕๐๒.
ธรรมะจากพระโอษฐ์
(รวบรวมโดย พระอาจารย์พงษ์พันธ์ ฉนฺทกโร ที่พำนักสงฆ์สวนโพธิญาณ จ.กาญจนบุรี)