ผู้รักษาผู้อื่นชื่อว่ารักษาตน รักษาตนชื่อว่ารักษาผู้อื่นอย่างไร?

 08-Aug18-64-BDS-29

 

ผู้รักษาผู้อื่นชื่อว่ารักษาตน รักษาตนชื่อว่ารักษาผู้อื่นอย่างไร?
 
        [๗๕๘]  สมัยหนึ่ง    พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่   ณ   นิคมของชาวสุมภะ  ชื่อเสทกะ   ในสุมภชนบท.  ณ   ที่นั้นแล  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เรื่องเคยมีมาแล้ว   คนจัณฑาลผู้เป็นนักไต่ราว   ยกไม้ไผ่ขึ้นตั้งไว้แล้ว    เรียกศิษย์ชื่อเมทกถาลิกะมาบอกว่า ดูก่อนเมทกถาลิกะผู้เป็นสหาย    มาเถิดมาขึ้นไม้ไผ่   แล้วยืนอยู่บนคอของเรา เมทกถาลิกะผู้เป็นศิษย์รับคำของนักไต่ราวแล้วขึ้นราวไม้ไผ่   ยืนอยู่บนคอของอาจารย์  ครั้งนั้นแล   คนจัณฑาลนักไต่ราวจึงพูดกะเมทกถาลิกะผู้เป็นศิษย์ว่า ดูก่อนเมทกถาลิกะผู้เป็นสหาย  ท่านจงรักษาเรา  เราจักรักษาท่าน  เราทั้งสองต่างคุ้มครองกันและกัน  ต่างรักษากันและกันอย่างนี้  จักแสดงศิลปะ จักได้ลาภและจักลงจากราวไม้ไผ่ได้โดยสวัสดี.
 
        [๗๕๙]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เมื่ออาจารย์กล่าวอย่างนั้นแล้ว  เมทกถาลิกะผู้เป็นศิษย์ได้กล่าวตอบว่า    ข้าแต่ท่านอาจารย์    ก็เรื่องนี้จักเป็นอย่างนั้นหามิได้  ท่านจงรักษาตน  ผมก็จักรักษาตน  เราทั้งสองต่างคุ้มครองตน  ต่างรักษาตนอย่างนั้น   จักแสดงศิลปะ  จักได้ลาภ   แสะจักลงจากไม้ไผ่ได้โดยสวัสดี.
 
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า  เหตุผลในข้อนั้นมีดังนี้   เหมือนศิษย์ชื่อเมทกถาลิกะได้พูดกะอาจารย์    ฉะนั้น.    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย    เธอพึงเสพสติปัฏฐานด้วย คิดว่า  เราจักรักษาตน พึงเสพสติปัฏฐานด้วยคิดว่า  เราจักรักษาผู้อื่น.  บุคคลผู้รักษาตน  ย่อมชื่อว่ารักษาผู้อื่น  บุคคลผู้รักษาผู้อื่น  ชื่อว่ารักษาตน. 
 
[๗๖๐]     ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   ก็บุคคลผู้รักษาตน    ย่อมชื่อว่ารักษาผู้อื่นอย่างไร.  ที่ชื่อว่ารักษาผู้อื่นด้วยการส้องเสพ    ด้วยการเจริญ    ด้วยการกระทำให้มาก.  บุคคลผู้รักษาตน   ย่อมชื่อว่ารักษาผู้อื่นอย่างนี้แล.
 
[๗๖๑]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  ก็บุคคลผู้รักษาผู้อื่น   ย่อมชื่อว่ารักษาตนอย่างไร.  ที่ชื่อว่ารักษาตนด้วยความอดทน  ด้วยความไม่เบียดเบียน  ด้วยความมีจิตประกอบด้วยเมตตา    ด้วยความเอ็นดู.    บุคคลผู้รักษาผู้อื่น    ย่อมชื่อว่ารักษาตนอย่างนี้แล.
 
[๗๖๒]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เธอพึงเสพสติปัฏฐานด้วยคิดว่า   เราจักรักษาตน  พึงเสพสติปัฏฐานด้วยคิดว่า  เราจักรักษาผู้อื่น.  บุคคลผู้รักษาตนย่อมชื่อว่ารักษาผู้อื่น  บุคคลผู้รักษาผู้อื่น  ย่อมชื่อว่ารักษาตน.
                 
ปฐมเสทกสูตร
 
# สํ.มหา.๓๐/๔๕๓
 
ธรรมะจากพระโอษฐ์
(รวบรวมโดย พระอาจารย์พงษ์พันธ์ ฉนฺทกโร 
ที่พำนักสงฆ์สวนโพธิญาณ จ.กาญจนบุรี)
 
 

เกี่ยวกับเรา

Maya-Logo3

มูลนิธิมายา โคตมี เป็นองค์กรการกุศลที่ไม่หวังผลกำไร เพื่อสนับสนุนเยาวชนในด้านการศึกษาและสร้างเสริมจริยธรรม และเพื่อการพัฒนาตนตามหลักพระพุทธศาสนา

Contact Us/ติดต่อเรา

มูลนิธิมายา โคตมี

3 ซอยกรุงเทพกรีฑา 20 แยก 7
แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ   10250

โทร. 02-368-3991, 06-1662-9077

E-mail: [email protected]

facebook : MayaGotami Foundation

www.mayagotami.net

line id : @mayagotami

 

แผนที่มูลนิธิ