ศูนย์ฝึกทอผ้าซาโอริ (SAORI Training Centre)

         เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ดิฉันได้มีโอกาสไปเยี่ยมศูนย์ฝึกทอผ้าซาโอริ ที่บ้านน้ำเค็มอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ศูนย์นี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของมูลนิธิ 

มายา โคตมี โดยทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้ให้เงินสนับสนุนการก่อสร้างและทางองค์การบริหารส่วนอำเภอตะกั่วป่าได้ให้การอนุเคราะห์พื้นที่ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่พ.ศ. 2550

          ท่านผู้อ่านคงจำกันได้ถึงเหตุการณ์ที่นำความเศร้าสลดให้แก่ชาวไทยและชาวโลก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547มีการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินเป็นอันมาก หลังจากวันนั้น มูลนิธิ มายา โคตมี โดยการนำของพระอาจารย์ มิตซูโอะ คเวสโก ได้เริ่มให้การช่วยเหลือผู้ประสพภัยพิบัติ ด้วยการจัดส่งหนังสือธรรมของท่านไปที่จังหวัดภูเก็ตและพังงาเป็นพันๆ เล่ม เพื่อช่วยเยียวยาจิตใจของเพื่อนร่วมชาติ

        หลังจากนั้นไม่นาน พระอาจารย์และคณะกรรมการมูลนิธิ ฯ เห็นว่า น่าจะหาทางช่วยผู้ประสพภัยในระยะยาว จึงได้เริ่มนำเครื่องทอผ้าซาโอริ ซึ่งตอนนั้นได้เริ่มให้ผู้มาปฏิบัติธรรมที่วัดสุนันทวนารามเริ่มใช้เพื่อฝึกสมาธิแล้ว ลงไปที่ตำบลบ้านน้ำเค็ม และที่หมู่บ้านอื่นๆ อีก สองสามแห่ง ในจังหวัดพังงา และส่งจิตอาสาไปสอนหญิงชาวบ้านได้ลองฝึกใช้ เพื่อผ่อนคลายความเศร้าโศก จึงเป็นที่มาของโครงการ SAORI for Tsunami ขึ้น

          จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 10 ปีแล้ว โครงการซาโอริได้พัฒนาไปมาก ผลิตภัณฑ์จากศูนย์มีคุณภาพดีขี้นเรื่อยๆ จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดพังงาและ ได้รับอนุญาติให้เข้าเป็นสมาชิกของศูนย์ศิลปาชีพอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจค่ะ ที่ช่างของเรา ซึ่งเป็นแม่บ้านธรรมดา ๆ สามารถผลิตงานฝีมือที่สวยงามจนเป็นที่ยอมรับเช่นนี้

          อย่างไรก็ดี สองปีมานี้ ศูนย์ฝึกทอผ้าซาโอริต้องประสพปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุหรือค่าแรง ทำให้ต้องลดจำนวนช่างลงเหลือ 15 คน ไม่นับรวมผู้ต้องหาหญิงที่เราไปฝึกอาชีพให้อีกหลายคน แต่โครงการนี้เป็นโครงการเพื่อชุมชน เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้าน และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ต้องถือเป็นงานกุศลด้วย เพราะการมานั่งทอผ้าเย็บผ้าในบรรยากาศที่ไม่กดดันเช่นที่ศูนย์ซาโอรินี้ ย่อมมีผลดีต่อจิตใจของแม่บ้านกลุ่มนี้ด้วย มูลนิธิฯ จึงยังต้องคงกิจกรรมสาธารณประโยชน์นี้ไว้อยู่ อย่างไรก็ดี เรากำลังหาทางที่จะลดค่าใช้จ่ายลงบ้าง ด้วยการหาแหล่งวัตถุดิบที่มีราคาต่ำหน่อยหรือวัสดุที่จะใช้แทนด้าย รวมทั้ง recycled paper นอกจากนั้น เรายังจะต้องเร่งหาตลาดเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น จะได้มีเงินหมุนเวียน

         ฉะนั้น หากท่านผู้อ่านพอมีคำแนะนำที่จะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาของศูนย์ซาโอริได้ กรุณาติดต่อมานะคะ ถือเป็นการสร้างกุศลค่ะ

        ก่อนหน้าไปเยือนศูนย์ซาโอริ คุณภวนพ สกลพานิช ผู้จัดการศูนย์ ได้พาไปชมซุ้มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซาโอริ ที่ Khaolak Laguna Resort ซึ่งท่านเจ้าของโรมแรมกรุณาจัดหาสถานที่ให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จึงขอถือโอกาสขอบพระคุณและอนุโมทนามายังท่าน ณ ที่นี้ค่ะ

วันนี้มีเรื่องเล่าสู่กันฟังเพียงเท่านี้นะคะ สวัสดีค่ะ

                                                               สุจิตรา หิรัญพฤกษ์